การส่งออกของสิงคโปร์ดีดกลับไปที่ 6.8% ในปี 2021

1011 675 admin

สิงคโปร์ การส่งออกสินค้าทั่วไปที่ผลิตในประเทศ (ยกเว้นน้ำมันหรือ NODX ดีดกลับไปที่ 6.8 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาในช่วงเดือนธันวาคม ปัจจัยหลักเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของการขนส่งสินค้าทางเรือที่ไม่ใชอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อย่างเช่น เครื่องจักรเฉพาะทาง และ ทองคำที่เป็นสินค้าทั่วไป สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ก็ยังโตจากอัตราต่ำสุดของปีที่แล้วอีกด้วย  นี่คือข่าวในทางบวกฉบับแรกสำหรับ NODX ในรอบ เดือนหลังจากยอดการส่งออกตกลง 5% ในเดือนพฤศจิกายน  Enterprise Singapore ได้รายงานข้อมูลอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ (18 มกราคม 

สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์คาดหวังที่จะเห็นการส่งออกเพิ่มขึ้น 0.3%  

ถ้าจะอิงพื้นฐานในแง่การปรับเปลี่ยนในระยะเดือนต่อเดือน การส่งออกในสิงคโปร์ถือได้ว่าเพิ่มขึ้น 6.6% ในเดือนธันวาคมที่ขยายตัวจากเดือนที่แล้วเพิ่มเป็น 3.7% ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร UOB อย่าง บาร์นาบัส กัน ก็ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า การขยายตัวในเดือนธันวาคมของ NODX นั้นได้วาดฉากหลังในเชิงบวกให้กับปี 2021” 

เขายังได้เสริมอีกว่า สิงคโปร์ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลิภัณฑ์ชีวเคมีนั้น โดยเฉพาะการได้จำหน่ายสินค้าในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ดูเหมือนว่าจะยิ่งช่วยยกระดับกระบวนการผลิตทั้งระบบและสนับสนุนให้ NODX ให้ยังคงไปต่อได้ในปี 2021” 

 

เพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทางเรือ  

การเด้งขึ้นในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 5 ซึ่งหนุนมาจากการขนส่งสินค้าที่ไม่ใช่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางเรือ ตัวเลขนี้เปรียบเทียบกับสินค้ากลุ่มเดียวกันที่ยอดตก 5.3% ในเดือนพฤศจิกายน เครื่องจักรเฉพาะทางเพิ่มขึ้น 30.9% ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้น ตามมาด้วยทองคำที่เป็นสินค้าทั่วไป (14.5%) และเครื่องมือตรวจวัด (21.4%)  

สำหรับสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ การขนส่งทางเรือเพิ่มขึ้น 13.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในเดือนธันวาคมของปี 2019 หลังการลดลง 4% ในเดือนพฤศจิกายน สินค้าประเภทวงจรรวมแบบเบ็ดเสร็จ หรือวงจร  IC (Integrated Circuit) อะไหล่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและหลอดอิเล็กตรอน และ วิทยุทรานซิสเตอร์ ส่งเสริมให้เกิดการส่งออกทางเรือมากที่สุดในเดือนธันวาคม โดยเพิ่มขึ้นที่ 15.7%, 33.8%, และ 16.5% ตามลำดับ  

 

การขนส่งทางเรือในช่วงที่ประเทศกำลังหยุดชะงักของสิงคโปร์ 

การส่งออกของสิงคโปร์ไปยังตลาดหลักของตนนั้น โดยส่วนใหญ่มีอัตราเพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคม ถึงแม้ว่าการส่งออกไปยังประเทศจีน สหภาพยุโรป อินโดนีเซีย และ ญี่ปุ่นนั้นจะถูกตีกลับ ทางด้านมิสเตอร์ โรเบิร์ต คาร์เนล หัวหน้าฝ่ายวิจัยประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จาก ING ได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า การส่งออกในช่วงที่ประเทศกำลังหยุดชะงักในเดือนธันวาคมของสิงคโปร์ทำให้เกิดข้อมูลที่ยากจะคาดเดา”  

เขายังหมายเหตุไว้ด้วยว่า จีน  ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้กับความแข็งแกร่งของตลาดโลก” ก็ยังเป็นตลาดที่อ่อนกำลังที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งยอดการส่งออกตกลงมาที่ 27.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในทางกลับกันสหรัฐอเมริกาที่กำลังโคลงเคลงด้วยพิษโควิด-19 กลับมีตัวเลขของสินค้าที่ขนส่งทางเรือไปจากสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 52.5% หลังจากที่เติบโตมาระลอกนึงแล้วในเดือนพฤศจิกายนที่อัตรา 9.5% 

อัตราการเติบโตในเดือนธันวาคมนั้นมีผลมาจากการส่งออกทองคำที่เป็นสินค้าทั่วไปสินค้าทางเภสัชกรรม และ เครื่องมือตรวจวัดต่าง ๆ เราอาจจะต้องรอดูข้อมูลการส่งออกนี้ไปอีกหนึ่งถึงสองเดือนเพื่อที่จะวิเคราะห์ทิศทางที่น่าฉงนนี้” มิสเตอร์คอร์เนล กล่าว  

การส่งออกไปยังเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 46.2% ในเดือนธันวาคมหลังจากตกลงมาที่ 9.7%ในเดือนพฤศจิกายน ตัวเลขส่วนใหญ่มาจากการส่งออกเครื่องจักรเฉพาะทางเครื่องมือตรวจวัด และอุปกรณ์ทำความร้อนความเย็น สำหรับการส่งออกไปที่ไต้หวันเพิ่มขึ้น 14.8% ในเดือนธันวาคมหลังจากเดือนก่อนหน้ามีอัตราเพิ่มมา 8.7% ตัวเลขส่วนใหญ่มาจากการส่งออกวงจร IC, สินค้าเคมีภัณฑ์เฉพาะทาง และโครงสร้างของเรือทั้งขนาดเล็กและใหญ่ 

การส่งออกนี้กระตุ้นให้ตลาดขยายตัวเพิ่มขึ้น 28.3% ในเดือนธันวาคม หลังจากเดือนก่อนหน้าตกลงไปที่ 4%  ตลาดเอเชียใต้ (47.5%)กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม (40.8%) ละลาตินอเมริกา (21.5%) ซึ่งเป็นตลาดสำคัญที่มีส่วนต่อการเติบโตนี้   

การค้าโดยรวมลดลง 0.3% ในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบจากพื้นฐานตัวเลขในปีที่แล้ว ซึ่งเดือนก่อนหน้านี้ลดลงมา 7.3% สาเหตุหลักมาจากการค้าน้ำมันซึ่งลดลงอย่างต่อเนื่องท่ามกลางราคาที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีการคลายตัวจากการหดตัวในเดือนพฤศจิกายนก็ตาม 

 

 

การจดทะเบียนบริษัทของสิงคโปร์ในปี  2021 

การจดทะเบียนบริษัทในสิงคโปร์นั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย และไม่มีระเบียบการทางราชการที่ยุ่งยากแต่อย่างใด มากไปกว่านั้นทางรัฐบาลยังเสนอเงื่อนไขการยกเว้นภาษีสำหรับธุรกิจ Startup เพื่อช่วยผู้ประกอบการในช่วงเริ่มต้นของการดำเนินธุรกิจ  

หน่วยงานด้านการบัญชีและกำกับดูแลองค์กร (ACRA) คือหน่วยงานที่ทำหน้าที่เสมือนนายทะเบียน ซึ่งดูแลจัดการขั้นตอนในการจดทะเบียนบริษัทในสิงคโปร์ ตามกฎหมายข้อบังคับของบริษัท บทที่ 50 ซึ่งคุณจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด ผู้ประกอบการทั้งชาวสิงคโปร์เองหรือชาวต่างชาติจะได้รับประโยชน์จากการจ้างงานเอเย่นต์เพื่อก่อตั้งธุรกิจในสิงคโปร์  เพราะสามารถเชื่อถือได้โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจในสิงคโปร์  

ชาวต่างชาติไม่สามารถจดทะเบียนบริษัทเองได้และจะต้องว่าจ้างบริษัทท้องถิ่นที่ให้บริการรับจดทะเบียน อีกทั้งชาวต่างชาติเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องมีวีซ่าทำงาน หรือ ใบอนุญาตทำงานด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยบริการที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ องค์กรมืออาชีพเหล่านี้สามารถจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องการจดทะเบียนบริษัทของคุณได้อย่างตรงจุด ประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณ  

 

รูปแบบของโครงสร้างธุรกิจเพื่อประโยชน์สูงสุดทางด้านภาษี 

ACRA อนุญาตให้มีการจดทะเบียนบริษัทในรูปแบบดังต่อไปนี้  

Private Limited Company (Pte. Ltd.) บริษัทเอกชน  

Sole Proprietorship กิจการเจ้าของเดียว 

* Limited Liability Partnership (LLP) ห้างหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดชอบ  

 

ทำไมจึงต้องก่อตั้งบริษัทเอกชน (Private Company Limited) 

ทางที่คุณเลือกควรทำให้คุณสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงหนี้สินขนาดของธุรกิจ และภาพลักษณ์ของเครื่องหมายการค้าได้อย่างเหมาะสม  มันจึงเป็นเรื่องสำคัญในการเลือกโครงสร้างทางธุรกิจเพราะมันจะส่งผลถึงรายได้ ภาษี และ ผลตอบแทนของคุณ  

ผู้ประกอบการจึงประสงค์ที่จะจดทะเบียนบริษัทในสิงคโปร์ในรูปแบบบริษัทเอกชน เพื่อความน่าเชื่อถือการเพิ่มหรือลดขนาดธุรกิจที่สามารถทำได้ และความมั่นคง 

  • มีความชัดเจนทางด้านกฎหมาย 
  • หนี้สินของผู้ถือหุ้นจะถูกจำกัดจากจำนวนเงินที่พวกเขาลงทุนในการซื้อจำนวนหุ้น 
  • ในกรณีที่โครงสร้างมีความเหมาะสม จะช่วยให้บริษัทเอกชนนั้น ๆ สามารถประหยัดภาษีลงได้  
  • ชาวต่างชาติสามารถถือหุ้นได้ 100% 
  • บุคคลผู้มีอายุเกิน 18 ปี ไม่จำกัดสัญชาติ สามารถเข้าร่วมในการจัดตั้งบริษัทในสิงคโปร์ได้  

คุณสามารถเลือกที่จะจดทะเบียนบริษัทในรูปแบบบริษัทเอกชน เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยง และได้รับผลประโยชน์จากการยกเว้นภาษี แต่อย่างไรก็ดี คุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญถึงแม้ว่าความเสี่ยงของคุณจะเล็กน้อยมากก็ตาม พวกเขาอาจจะแนะนำให้คุณเปิดบริษัทในรูปแบบกิจการเจ้าของเดียว หรือ ห้างหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดชอบแทนที่จะจดทะเบียนบริษัทในสิงคโปร์  

การจดทะเบียนในรูปแบบบริษัทเอกชนหมายถึงการพร้อมที่จะยินยอมทำตามข้อกำหนด อย่างเช่น การเตรียมเอกสารทางบัญชี รายงานของกรรมการบริษัท รายงานผลตอบแทนประจำปี และมีการตรวจสอบบัญชีของบริษัท ซึ่งอาจจะต้องมีการนัดหมายผู้ตรวจสอบบัญชีเลขขานุการบริษัทและกรรมการบริษัทที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จะเพิ่มเข้ามาและอาจจะเป็นการเพิ่มค่าจ่าย 

 

หากนักลงทุนเข้าใจการทำธุรกิจในสิงคโปร์หรือเตรียมตัวอย่างดี ขั้นตอนการจดทะเบียนทำธุรกิจในสิงคโปร์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แม้หลายขั้นตอนอาจจะมีความซับซ้อนบ้าง เช่น การขอใบอนุญาต การขอจดทะเบียนชื่อบริษัท เป็นต้น แต่นักลงทุนก็สามารถเริ่มต้นทำธุรกิจได้อย่างประสบความสำเร็จ

นอกจากนี้แล้วสิ่งสำคัญที่ Interloop อยากให้นักลงทุนทราบคือ การเข้าใจสภาพแวดล้อม และการเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวสิงคโปร์ ก็เป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่ทำให้นักลงทุนเริ่มต้นประกอบธุรกิจได้อย่างราบรื่น ไม่น้อยไปกว่าการจัดเตรียมเอกสารตามขั้นตอน

Leave a Reply

Your email address will not be published.