การจดทะเบียนบริษัทในสิงคโปร์ 2020
การจดทะเบียนนิติบุคคลในสิงคโปร์จะสมบูรณ์ได้นั้น นักลงทุนต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามขั้นตอน ทั้งบริษัทของชาวสิงคโปร์ ซึ่งเป็นคนท้องถิ่น และการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ โดยเงื่อนไขการจดทะเบียนนิติบุคคลทั้ง 2 ประเภท อาจจะมีข้อแตกต่างกันในบางเรื่อง
นักลงทุนต่างชาติและการจดทะเบียนบริษัทในสิงคโปร์
นักลงทุนต่างชาติที่วางแผนจะจดทะเบียนบริษัทในสิงคโปร์ ต้องทำเข้าใจรายละเอียดก่อนจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ยกตัวอย่างเช่น ชาวต่างชาติจะต้องตัดสินใจว่าการทำธุรกิจนั้น เป็นการประกอบธุรกิจภายในสิงคโปร์หรือจากต่างประเทศ และหากนักลงทุนคนไหนต้องการย้ายไปอยู่สิงคโปร์ เพื่อเปิดบริษัทอยู่ที่นั่น จะต้องมีใบอนุญาตทำงานในสิงคโปร์ (Employment Pass) ถึงจะทำธุรกิจในสิงคโปร์ได้ตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามผู้ที่ถือ Employment Pass หรือ EP สามารถให้สมาชิกในครอบครัวใช้สิทธิพำนักในสิงคโปร์ได้ แต่จะต้องมีใบอนุญาตสำหรับผู้ติดตาม (Dependant Pass) หรือ DP
นอกจากนี้นักลงทุนต่างชาติที่วางแผนตั้งฐานการลงทุนในสิงคโปร์ แต่ยังมีการดำเนินการจากต่างประเทศ จะต้องแต่งตั้งผู้อำนวยการท้องถิ่นที่มีถิ่นพำนักในสิงคโปร์ถาวร ในช่วงที่อยู่ระหว่างการยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ อย่างไรก็ตามการบังคับใช้กฎหมายในปัจจุบันนั้น ไม่อนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติจดทะเบียนนิติบุคคลด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามมีทางเลือกที่ทำให้ชาวต่างชาติอาจจะยังคงจดทะเบียน บริษัทในสิงคโปร์ได้ ผ่านบริษัทที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดตั้งนิติบุคคล หรือบุคคลที่มีความสามารถในการทำให้บริษัทคุณสามารถจดทะเบียนในสิงคโปร์ได้
ข้อกำหนดของบริษัทในสิงคโปร์
ชาวต่างชาติที่ไม่เคยจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในสิงคโปร์มาก่อน หากไม่ทำตามข้อกำหนดตามที่กฎหมายระบุไว้ จะไม่สามารถเปิดบริษัทได้
Directors : ต้องมีผู้อำนวยการท้องถิ่นอย่างน้อย 1 คน (เป็นชาวสิงคโปร์,ผู้ที่ได้รับสิทธิพำนักถาวร หรือมี EntrePass) เป็นผู้รับมอบอำนาจในบริษัท อย่างไรก็ตามหากนักลงทุนไม่สามารถหาผู้อำนวยการท้องถิ่นได้ Interloop เรานั้นมีบริการอำนวยความสะดวกในการว่าจ้างผู้อำนวยการชาวท้องถิ่น
ผู้ถือหุ้น : ผู้ถือหุ้นอาจจะเป็นบุคคลที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี หรือเป็นนิติบุคคล นอกจากนี้กฎหมายยังอนุญาตให้ชาวท้องถิ่นถือหุ้นโดยสมบูรณ์ หรือถือหุ้นโดยชาวต่างชาติก็ได้ นอกจากนี้กรรมการและผู้ถือหุ้นอาจจะเป็นคนเดียวกัน หรือหลายคนก็ได้
ทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว : ทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วหมายถึงเงินทุนของบริษัทมาจากการร่วมหุ้นของผู้ถือหุ้นที่ชำระแล้ว โดยทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ ตามกฎหมายระบุว่าต้องไม่ต่ำกว่า 1 ดอลลาร์สิงคโปร์
ที่อยู่ที่ลงทะเบียน : นักลงทุนที่ประกอบธุรกิจในสิงคโปร์ จะต้องมีที่อยู่จริงของสถานประกอบการ ซึ่งต้องไม่ใช่ตู้ไปรษณีย์
เลขานุการบริษัท : เลขานุการบริษัทที่ผ่านการรับรอง จะต้องเป็นผู้พำนักในสิงคโปร์ โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมว่าเลขานุการจะต้องทำงานที่บริษัทภายใน 6 เดือน นับจากวันจัดตั้งบริษัท
และหลังจากที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะต้องส่งหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทแบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังหน่วยงานด้านการบัญชีและกำกับดูแลองค์กร (ACRA) หลังจากเสร็จสิ้นการพิจารณาของ ACRA แล้ว บริษัทถึงจะเริ่มต้นจัดประชุมบอร์ดครั้งแรก พร้อม ๆ กับการสร้างตราประทับบริษัท และการชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เงื่อนไขการเปิดบริษัทในสิงคโปร์ จะต้องมีองค์ประกอบ ดังต่อไปนี้
- ผู้ถือหุ้น (บุคคลหรือนิติบุคคล)
- ผู้อำนวยการประจำท้องถิ่น
- เลขานุการบริษัท
- ทุนชำระแล้วครั้งแรกของบริษัท 1-1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์
- ที่อยู่ลงทะเบียนของบริษัท
เอกสารสำคัญสำหรับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในสิงคโปร์
- รายละเอียดเกี่ยวกับผู้ถือหุ้น ผู้อำนวยการและเลขานุการบริษัท
- แผนการดำเนินงานของบริษัท
- ชื่อบริษัท
สำหรับผู้ที่มีถิ่นพำนักในสิงคโปร์
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (National Registration Identity Card) หรือ NRIC ทั้งหน้าและหลังบัตร
- หลักฐานที่อยู่
สำหรับผู้ที่ไม่มีถิ่นพำนักในสิงคโปร์
- สำเนา Passport
- หลักฐานที่อยู่ในต่างประเทศ เช่น ใบแจ้งค่าสาธารณูปโภค หรือรายการเดินบัญชี (Statement)
สำหรับผู้ถือหุ้นบริษัท
- สำเนาใบรับรองการจดทะเบียนบริษัท
- สำเนา Business Profile
- สำเนาบันทึกข้อตกลงและข้อบังคับบริษัท
- หลักฐานที่อยู่
- สำเนาหนังสือเดินทางของตัวแทนบริษัทและเจ้าของบริษัท
- แผนภูมิองค์กร
เอกสารที่ต้องใช้หลังจดทะเบียนบริษัท
หลังจากที่ดำเนินการจดทะเบียนบริษัทแล้ว ผู้ประกอบการจะต้องเตรียมเอกสารสำคัญ ดังนี้
- สัญญาการจ้างงาน
- สัญญาการไม่เปิดเผยข้อมูล
- สัญญาของตัวแทนจำหน่าย
- สัญญาข้อตกลงทางธุรกิจ
การเปิดบัญชีนิติบุคคล
นักลงทุนต่างชาติที่เปิดบริษัทในสิงคโปร์ ควรจะเปิดบัญชีธนาคารหลังจากที่ดำเนินการยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเรียบร้อยแล้ว โดยการเปิดบัญชีธนาคารเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายธุรกิจสิงคโปร์ ทั้งนี้การเปิดบัญชีธนาคาร จะช่วยแยกการเงินระหว่างเงินส่วนบุคคลและเงินของบริษัท ให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ทำให้ธุรกิจของคุณเป็นระเบียบมากขึ้น ขณะเดียวกันการแยกบัญชีจะช่วยให้วิเคราะห์แผนธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติจะเปิดบัญชีธนาคารของบริษัทเป็นการส่วนตัว แต่ก็มีบางธนาคารประกาศเงื่อนไขให้เปิดบัญชีจากต่างประเทศได้ แต่จะต้องมีหนังสือรับรองการปฏิบัติหน้าที่หรือมีเอกสารอย่างเป็นทางการอื่น ๆ นอกจากนี้แล้วนักลงทุนที่เปิดบัญชีจากต่างประเทศ จะต้องลงนามในเอกสารต่อหน้าของพนักงานธนาคารสิงคโปร์ในต่างประเทศ หรือแสดงหลักฐานต่อเอกอัครราชทูตประจำประเทศสิงคโปร์หรือทนายความ
ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท
เมื่อนักลงทุนต่างชาติดำเนินการจดทะเบียนนิติบุคคล ในระหว่างที่ยื่นขอจดทะเบียนอาจจะมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นนักลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูล เพื่อดำเนินการยื่นจดทะเบียนได้อย่างราบรื่น ไม่เช่นนั้นจะยื่นจดทะเบียนไม่สำเร็จ
Leave a Reply