การยื่นขอถิ่นที่อยู่ถาวร (PR) ประเทศสิงคโปร์
ในแต่ละปีมีผู้คนหลายพันคนที่ได้รับสิทธิ์เป็นผู้พำนักถาวรในสิงคโปร์ ซึ่งไม่จำเป็นว่าทุกคนที่ได้รับสิทธิ์ฯ จะต้องยื่นขอถิ่นที่อยู่ถาวร (PR) รูปแบบเดียวกันทั้งหมด แต่อาจจะใช้สิทธิ์ครอบครัวก็ได้ ซึ่งประกอบด้วย ตัวผู้สมัครเอง คู่สมรส และบุตรที่อายุต่ำกว่า 21 ปี และยังไม่แต่งงาน เพราะฉะนั้นด้วยกฎดังกล่าว ทำให้นักลงทุนต่างชาติที่ได้สิทธิ์ผู้พำนักถาวรในสิงคโปร์มีเชื้อชาติที่หลากหลาย ในประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางการเงิน (Financial Hub) มีความมั่นคงและพัฒนามากที่สุดในเอเชีย
-
โครงการ PR สำหรับผู้ที่ทำงานในสิงคโปร์
รัฐบาลสิงคโปร์มีโครงการที่ให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านหรือทักษะสูง (PTS scheme) โดยสามารถยื่นขออยู่อาศัยถาวรในสิงคโปร์ได้เช่นกัน ที่สำคัญ PTS scheme สะดวกและง่ายกว่าการยื่นขอ PR ด้วยซ้ำ การทำงานในสิงคโปร์นั้นนักลงทุนจะต้องมีวีซ่าทำงาน หรือที่เรียกว่า Employment Pass, Entrepreneur Pass, Personalized Employment Pass หรือที่รู้จักกันในชื่อ “S Pass” โดยเงื่อนไขการขอวีซ่านักธุรกิจ S Pass นี้ จะต้องแสดงสลิปเงินเดือนอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อยืนยันว่าผู้ประกอบการได้ดำเนินธุรกิจในสิงคโปร์มาไม่น้อยกว่า 6 เดือน ก่อนที่จะยื่นขอวีซ่า
-
การยื่นขอถิ่นที่อยู่ถาวรสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
นอกจากนี้ผู้ประกอบการสามารถขอถิ่นที่อยู่ถาวรสิงคโปร์ ผ่านโครงการนักลงทุนทั่วโลก (Global Investor Programme ; GIP scheme) ซึ่งภายใต้โครงการนี้นักลงทุนสามารถยื่นขอ PR ให้กับตัวเองและสมาชิกในครอบครัวได้ทันที หากมีการลงทุนในธุรกิจที่มีมูลค่าอย่างน้อย 2.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือลงทุนในธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นในสิงคโปร์
สำหรับโครงการ GIP ปัจจุบันสามารถเลือกรูปแบบการลงทุนได้ 2 ทางเลือก ประกอบด้วย
Option A: เริ่มลงทุนในธุรกิจใหม่ ที่ต้องใช้เงินลงทุนอย่างน้อย 2.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือขยายธุรกิจที่มีอยู่เดิม
Option B: ลงทุนในกองทุนที่ได้รับการรองรับจาก GIP ที่ต้องใช้เงินลงทุนอย่างน้อย 2.5 ล้านเหรียญสิงคโปร์ และนอกจากเงื่อนไขด้านมูลค่าการลงทุนแล้ว ธุรกิจของคุณจะต้องมีประวัติการทำธุรกิจที่ดี และต้องมีแผนการลงทุนในอนาคต
สิ่งที่นักลงทุนต้องทราบเกี่ยวกับการตั้งฐานการลงทุนในสิงคโปร์ และการยื่นขอสิทธิ์พำนักถาวร INTERLOOP SOLUTIONS & CONSULTANCY ได้สรุปข้อมูลสำคัญ ๆ ดังนี้
-
PR Scheme สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่มีความสามารถด้านศิลปะ (Foreign Artistic Talent scheme)
วงการศิลปะของสิงคโปร์เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศที่ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางศิลปะของภูมิภาค ดังนั้นนักลงทุนที่สามารถความสามารถในด้านนี้ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ การเต้นรำ ดนตรี วรรณกรรมหรือภาพยนตร์ สามารถขอถิ่นที่อยู่ถาวรได้เช่นกัน ผ่านโครงการ Foreign Artistic Talent scheme
และเพื่อให้โครงการนี้มีมาตรฐาน นักลงทุนจะต้องเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงในประเทศของตนเอง และถ้าเป็นไปได้ควรมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในระดับสากล รวมถึงมีการฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาทักษะอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้นักลงทุนจะต้องมีส่วนร่วมในการสร้างศิลปะวัฒนธรรมในสิงคโปร์ โดยเฉพาะการอนุรักษ์ศิลปะท้องถิ่น เพื่อสร้างงานศิลปะวัฒนธรรมให้เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ
การเป็นพลเมืองสิงคโปร์
บุคคลที่มีอายุน้อยกว่า 21 ปีและเป็นผู้พำนักถาวรในสิงคโปร์ (SPR) อย่างน้อย 2 ถึง 6 ปีก่อนถึงวันที่จะสมัครเป็นพลเมืองสิงคโปร์
สิทธิประโยชน์ของ Singapore Permanent Residence
ผู้ที่ถือบัตร PR จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย เช่นเดียวกับพลเมืองชาวสิงคโปร์ ดังนี้
1.สามารถเข้า-ออกประเทศโดยไม่ต้องใช้วีซ่าทำงานหรือท่องเที่ยว นอกจากนี้แล้วนักลงทุนต่างชาติที่ได้รับสิทธิ์ PR จะได้รับบัตรสีนำเงิน ซึ่งเป็นบัตรประจำตัวประชาชน ไว้สำหรับการยืนยันตัวตน
2.กรอกข้อมูลบุตรที่ยังอายุน้อยกว่า 21 ปีและยังไม่ได้แต่งงาน อย่างไรก็ตามหากลูกของอยู่ในวัยเรียน จะถูกจัดให้อยู่ใน Priority List และสุดท้ายอำนาจในการตัดสินใจเรื่องการศึกษาให้ลูก เป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องตัดสินใจ
สิทธิประโยชน์หลังได้รับบัตร PR
- วีซ่าพักระยะยาวสำหรับผู้ปกครองของคุณ
- เปลี่ยนงานได้อย่างอิสระ ไม่ต้องขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจเดิมนั้นหากคุณทำงานที่สิงคโปร์ เมื่อต้องเปลี่ยนอาชีพ นักลงทุนจำเป็นจะต้องยกเลิกวีซ่าสิงคโปร์เก่าและสมัครใหม่ เนื่องจากเสี่ยงต่อการการถูกปฏิเสธ หรือเกิดความล่าช้า
- รับสิทธิ์พิเศษจากโครงการกองทุนสำรองเลี้ยงชิพสิงคโปร์ ภายใต้โครงการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกลางสิงคโปร์ (CPF scheme) โดยนักลงทุนและนายจ้างของนักลงทุนบริจาคเงินขั้นต่ำรายเดือนให้กับกองทุนบำนาญข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เจ้าของบ้าน การปกป้องครอบคัว และการเติบโตของสินทรัพย์
- สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์นั้น ผู้ที่ได้รับบัตร PR จะได้รับสิทธิซื้อแฟลตมือ 2 ของรัฐบาล (HDB flats) ในกฎหมายระบุว่าเฉพาะชาวสิงคโปร์เท่านั้นที่สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์มือ 1 ได้
- อย่างไรก็ตามนักลงทุนสามารถใช้สิทธิ์พลเมืองได้ หลังจากได้รับสถานะ PR มานานหลายปี โดยนักลงทุนสามารถขอรับหนังสือเดินทางสิงคโปร์ และได้รับสิทธิเช่นเดียวกับพลเมืองที่เกิดในท้องถิ่น
ทั้งนี้ประโยชน์ของการให้สถานะพลเมืองสิงคโปร์แก่นักลงทุน ก็มีข้อดีหลายข้อ ตามที่กฎหมายระบุว่าหากมีลูกชายจะต้องเข้ารับเกณฑ์ทหาร เพื่อรับใช้ชาติ ตามอายุ 16.5 ปี และใช้เวลา 2 ปีหลังจากนั้น ถึงจะจบการเกณฑ์ทหาร หรือตอนอายุ 18 ปี ทั้งนี้นักลงทุนจะต้องมีส่วนร่วมกับงานประจำชาติ ซึ่งกำหนดอายุ 50 ปี สำหรับพนักงานออฟฟิศ และ 40 ปีสำหรับอาชีพอื่น ๆ
ระยะเวลาการยื่นขอถิ่นที่อยู่ถาวร
สุดท้ายกระบวนการทำ PR จะใช้เวลา 6-12 เดือน เพราะฉะนั้นนักลงทุนจึงมีเวลาทำงานและลงทุนในสิงคโปร์ เงื่อนไขอีกประการรัฐบาลสิงคโปร์ยินดีรับผู้เชี่ยวชาญพิเศษ หรือนักลงทุนที่มีความารถที่จะพัฒนาประเทศในหลาย ในรูปแบบที่ต่างกัน ดังนั้นโครงการ PR จึงช่วยอำนวยความสะดวก ให้กับนักลงทุนที่อยากลงทุนในสิงคโปร์อยู่แล้ว
Leave a Reply