ประเทศจีนเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกและเป็นสวรรค์ของนักลงทุน โดยปัจจัยที่ทำให้จีนเติบโตอย่างก้าวกระโดดจนขึ้นเป็นประเทศมหาอำนาจที่ทรงอิทธิพลนั้น เริ่มต้นจากการปฏิรูปทางเศรษฐกิจในยุค 70 เป็นโมเดลการเติบโตสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายการลงทุนไปต่างประเทศหรือทั่วโลก เพราะฉะนั้นในบทความในวันนี้ มาดูรายละเอียดการจดทะเบียนบริษัทในจีนกันว่ามีอะไรบ้าง
สิทธิประโยชน์จากการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในจีน
ก่อนที่จะดูรายละเอียดการจดทะเบียนบริษัทในจีน คุณต้องเช็คเงื่อนไขต่อไปนี้ เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน
- การจัดอันดับของนิตยสารฟอร์จูน ที่จัดอันดับบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก 500 บริษัท ตั้งแต่ Apple ไปถึง Nokia และ Oracle ต่างมีฐานการดำเนินงานในจีน ทำให้แบรนด์เหล่านี้สร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว สร้างการดึงดูดการลงทุนไปทั่วโลก เมื่อบริษัทต่างชาติเหล่านี้ต่างเลือกจีนเป็นแท่นยิงจรวดขีปนาวุธ (Launching Pad) ในการสร้างการเติบโตของธุรกิจ ดังนั้นหากจะเดินตามรอยพวกเขา ความสำเร็จก็อยู่ห่างไม่กี่ก้าวนี้เอง
- ประเทศจีนมีข้อดีหลายอย่างในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ด้วยประชากร 1.3 พันล้านคน ทำให้คุณมั่นใจในตลาดที่มีความพร้อมได้ จากจำนวนประชากรที่มีมากที่สุดในโลก นอกจากนี้จีนยังตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันออก เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินเดีย ญี่ปุ่นและไทยได้อย่างสะดวก
- จีนเป็นประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกจากการจัดอันดับเศรษฐกิจ และเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าและส่งออกที่ใหญ่ที่สุด ดังนั้นการจัดตั้งบริษัทในจีนจะผลักดันธุรกิจของคุณ ขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จได้ไม่ยาก
- เศรษฐกิจจีนมีความหลากหลายมาก จึงเป็นโอกาสสำหรับหลาย ๆ เซ็คเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตร เทคโนโลยี การผลิต รถยนต์ การบริการ พลังงาน (น้ำมันและก๊าซ) เป็นต้น ซึ่งผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่าจะเติบโตและประสบความสำเร็จสูงสุด ด้วยโอกาสที่หาได้ง่าย เพราะฉะนั้นการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในจีนจึงเป็นไอเดียที่ดีที่สุดในการสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
การจดทะเบียนบริษัทในจีน : ทางเลือกของนักลงทุนต่างชาติ
เมื่อทราบถึงข้อดีจากการเป็นบริษัทจีนแล้ว เพื่อให้นักลงทุนใช้โอกาสที่มีศักยภาพนี้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ จะต้องทราบก่อนว่ารูปแบบการจัดตั้งบริษัทใหม่ในจีนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ มีทั้งหมด 3 ตัวเลือก โดยเราจะอธิบายรูปแบบการจดทะเบียนบริษัทในจีน ข้อดีและข้อเสีย เพื่อช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น
สำหรับทางเลือกการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในจีน ประกอบด้วย
รูปแบบกิจการประเภทเจ้าของเป็นชาวต่างชาติเป็นทั้งหมด หรือบริษัทต่างชาติ (WFOE)
การก่อตั้งบริษัทโดยใช้รูปแบบธุรกิจประเภทนี้ เป็นไปตามกฎหมายธุรกิจของจีนที่นักลงทุนต่างชาติเป็นเจ้าของบริษัท 100% นักลงทุนสามารถควบคุมการดำเนินงาน และตั้งเป้าผลประกอบการได้ทั้งหมด เช่น รายได้ กำไร
โดยกิจการประเภท WFOE จะอยู่ในรูปแบบบริษัทจำกัด มีสถานะเป็นนิติบุคคล สามารถกำหนดผู้ถือหุ้นได้ ทำให้รูปแบบการจดทะเบียนบริษัทประเภทนี้ เป็นตัวเลือกที่นักลงทุนต่างชาตินิยมมากที่สุด
สิทธิประโยชน์ของ WFOE
- ได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทั้งหมด เมื่อมีการจัดตั้งบริษัทในประเทศจีน
- สามารถควบคุมกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของกิจการได้เต็มรูปแบบ
- สามารถรักษาทรัพย์สินทางปัญญา หรือควบคุมกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของได้เต็มที่ เมื่อขยายธุรกิจไปจีน
- มีสิทธิ์การว่าจ้างพนักงานทั้งหมด
- เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวในจีน
รูปแบบวิสาหกิจร่วมทุน (JV)
การจัดตั้งบริษัทรูปแบบ Joint Venture นักลงทุนจะต้องมีพันธมิตรหรือร่วมทุนกับบริษัทจีน โดยพาร์ทเนอร์ชาวจีนจะต้องมีสัดส่วนการถือหุ้นมากกว่า 50% เพราะฉะนั้นจึงแตกต่างกับรูปแบบ WFOE และการทำธุรกิจแบบ JV พาร์ทเนอร์จะสามารถควบคุมการบริหารงานในบริษัทได้มากกว่า
อย่างไรก็ตามการทำธุรกิจแบบ JV ก็มีข้อดี หากคุณอยากโตแบบรวดเร็ว การร่วมทำธุรกิจกับบริษัทที่รู้วิธีการเติบโตอยู่แล้วจะมีความได้เปรียบ จากการมีเครือข่ายทางการค้าและช่องทางการขายอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลความเสี่ยงหรือความท้าทายจากการตั้งบริษัทใหม่ในต่างประเทศ เพียงแต่ว่าคุณจะต้องไว้ใจ เชื่อใจในธุรกิจที่อยู่ในมือคนอื่น ทำให้ตัวเลือกนี้มีความเสี่ยงเกินไปสำหรับนักลงทุนหลายคน จึงตัดสินใจประกอบธุรกิจในจีน โดยใช้รูปแบบ WFOE เป็นทางเลือกแรก
รูปแบบสำนักงานตัวแทน (Representative Offices; RO)
สำหรับรูปแบบการจัดตั้งบริษัทนี้ ถือเป็นรูปแบบที่ง่ายที่สุด เมื่อเทียบกับการตั้งบริษัทแบบ WFOE หรือ JV อย่างไรก็ตามการตั้งบริษัทโดยใช้สำนักงานตัวแทนนั้น มีข้อจำกัดอยู่ว่าสำนักงานฯ จะต้องมีการดำเนินงานที่ไม่แสวงหากำไร เช่น การสนับสนุนและการทำวิจัยตลาด เป็นต้น
โอกาสที่เหมาะที่สุดสำหรับการเปิดสำนักงานตัวแทน ในต่างประเทศ
ด้วยข้อจำกัดของสำนักงานตัวแทน ทำให้นักลงทุนเลือกรูปแบบนี้น้อย แล้วโอกาสไหนถึงเหมาะที่สุดในการตั้งสำนักงานตัวแทน?
- ในระหว่างการสำรวจตลาด โดยเฉพาะหากบริษัทมีขนาดเล็ก และมีงบประมาณจำกัด
- หากบริษัทมีแผนขยายธุรกิจไปจีนอยู่แล้ว แต่ยังไม่สามารถสรุปการตัดสินใจได้
- เมื่อบริษัทมีเป้าหมายที่เรียบง่าย เช่น การประกันคุณภาพ การประสานงานกับซัพพลายเออร์ เป็นต้น
สุดท้ายตามที่กล่าวไปข้างต้นว่าการเริ่มธุรกิจในจีนเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นการมีพันธมิตรหรือเอเจนซี่ที่ให้คำแนะนำได้ เป็นเพื่อนร่วมทางและคอยประคับประคองธุรกิจจนกว่าจะไปถึงเป้าหมายเป็นเรื่องที่ดีสำหรับธุรกิจ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการตั้งบริษัทใหม่ที่อาจจะมีข้อติดขัด จึงอย่าลังเลในการเลือกเอเจนซี่เป็นที่ปรึกษาให้กับธุรกิจของคุณ เพื่อบุกตลาดจีนที่มีศักยภาพสูง
Leave a Reply