ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ 5G

1024 617 admin

ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ 5G

 

เทคโนโลยี 5G หมายถึงเทคโนโลยีไร้สายที่ถูกพัฒนาต่อเนื่องจาก 3G และ 4G โดยความเปลี่ยนแปลงที่เห็นชัดที่สุดคือ ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น และสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลายครั้งในการเชื่อมต่อครั้งเดียว โดยความเร็วการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนั้น ถ้าเปรียบเทียบแล้วเร็วกว่าการตอบสนองของมนุษย์ด้วยซ้ำ รวมถึงยังเป็นประโยชน์ต่อการผ่าตัดระยะไกล  โดย Qualcomm บริษัทผู้ผลิตสารกึ่งตัวนำ (semiconductor) และอุปกรณ์โทรคมนาคม สัญชาติสหรัฐอเมริกา เคยคาดการณ์ว่า การเติบโตของ 5G จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลก 12.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และประเมินว่าจะมีการจ้างงานใหม่ 22 ล้านตำแหน่ง จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาเครือข่าย 5G

การใช้ 5G ในปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นใช้การเชื่อมต่อ 4G ดังนั้นกำลังผลิตจึงถูกจำกัด แต่ในปีนี้มีการพัฒนามากขึ้น โดยเทคโนโลยี 5G ถูกพัฒนาให้ใช้งานได้ดีขึ้น มีความเร็วที่มากกว่าเดิม และใช้กับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  มีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งแบบสมาร์ทโฮมและสมาร์ทออฟฟิศ เช่น Alexa, Siri และ Google ของ 5G ถูกพัฒนาให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากการใช้บริการ

 

อย่างไรก็ตามมีข้อเท็จจริงบางอย่างที่ต้องทราบว่า….
  • มีคลื่นความถี่วิทยุ 3 ประเภทที่ใช้กับ 5G แต่ผู้พัฒนาโทรคมนาคมส่วนใหญ่ใช้คลื่นความถี่ 3.5GHz สำหรับ 5G ซึ่งจะให้ความเร็วมากกว่า 490Mb/s.
  • หนึ่งในประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุดของ 5G คือเวลาแฝงในระดับที่ต่ำ (lower latency) หมายถึงว่าเมื่อคุณใช้งานผ่านอุปกรณ์ แทบไม่เห็นความล่าช้าจากการดาวน์โหลดข้อมูลหรือหน้าแรกของเว็บ แม้ว่าระบบจริง ๆ จะล่าช้า แต่การแสดงผลจะเร็ว เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นประโยชน์ของสิ่งที่เรียกว่า Internet-Of-Things สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคได้ โดย lower latency เครือข่าย 4G ตั้งอยู่ที่ประมาณ 60 มิลลิวินาที ขณะที่ 5G จะลดลงเหลือระหว่าง 1-6 มิลลิวินาที
  • นอกจากนี้สิ่งที่เห็นได้ชัดจากการพัฒนา 5G คือ จำนวนอุปกรณ์ที่เครือข่ายสามารถรองรับได้ โดยมาตรฐาน 5G กำหนดให้เครือข่ายต้องรองรับอุปกรณ์อย่างน้อย 1 ล้านเครื่องต่อตารางกิโลเมตร อย่างไรก็ตามภายในปี 2566 คาดว่าจะมีการเชื่อมต่อ 1.3 พันล้านเครือข่าย 5G ตั้งแต่โทรศัพท์ผ่านตู้เย็นรถยนต์ไปจนถึงโดรนและชุดหูฟัง ที่ช่วยให้คุณสามารถติดต่อกับผู้อื่นในต่างประเทศราวกับว่าคุณอยู่ที่นั่นจริง ๆ

 

 

5G จะส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมอย่างไร?

Healthcare

เทคโนโลยี 5G จะเป็นประโยชน์มากในธุรกิจการแพทย์ โดยเฉพาะการผ่าตัดเสมือนจริง ที่สามารถวิดีโอจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ ช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำจากระบบการแพทย์ เทคโนโลยีจึงเป็นเครื่องช่วยชีวิตได้ นอกจากนี้จะช่วยติดตามและตรวจสอบสุขภาพผู้ป่วยผ่านแอพฯ โดยเฉพาะในผู้ป่วยสูงอายุหรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยจับจากชีพจรจองผู้ป่วย หากมีการเซ็นเซอร์ อย่างไรก็ตาม Qualcomm เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีในพื้นที่ IoMT (Internet of Medical Things) ซึ่งคาดการณ์ว่าเครื่องมอนิเตอร์ผู้ป่วยจะขยายเป็น 33 ล้านเครื่องภายในปี 2564

 

Surgery

ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ศัลยแพทย์ในเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน ร่วมมือกับ Huawei และ China Mobile ทำการผ่าตัดสมองระยะไกลเป็นครั้งแรกของโลกด้วยคอมพิวเตอร์ โดยใช้เทคโนโลยีติดต่อกับผู้ป่วยที่อยู่ห่างจากไหหลำ 3,000 กิโลเมตร

Ling Zheipei ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “เครือข่าย 5G ช่วยให้ทำงานได้แบบเรียลไทม์ ช่วยแก้ปัญหาความล่าช้าของเทคโนโลยี 4G และปัญหาความล่าช้าในการรีโมทคอนโทรลได้ดีขึ้น”

 

ยานยนต์

รถยนต์ไร้คนขับถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สร้างชื่อเสียงให้กับการปฏิวัติ 5G โดยรถยนต์ไร้คนขับจะได้รับข้อมูลจากการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันปัญหาเรื่องความล่าช้าต่าง ๆ ได้ถูกแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น Morgan Stanley ประมาณการว่ารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตนเอง (self-driving cars) สามารถประหยัดเงินได้มากถึง 140 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากการหลีกเลี่ยงความแออัด

ตามระบบ the Global System for Communications (GSMA) และ C-V2X จะเชื่อมต่อยานพาหนะกับสิ่งต่าง ๆ จะถูกพัฒนาในด้านต่าง ๆ ทั้งการประหยัดเชื้อเพลิง การปรับปรุงการจราจร การจัดการระบบรถถังต่าง ๆ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามเทคโนโลยี 5G ไม่ได้หมายถึงจุด A ไปจุด B แต่ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เราจะเห็นการเชื่อมต่อแบบ end-to-end หรือทางร้านค้าสามารถติดตามได้หมดว่า ในขณะนี้สินค้าอยู่ในขั้นตอนไหน เช่นเมื่อข้อมูลถูกส่งไปยังคลังสินค้าที่มีการหยิบสินค้าโดยอัตโนมัติ และวางบนสายพานลำเลียง ข้อมูลจะถูกบันทึกสำหรับการส่งสินค้าครั้งถัดไป ร้านค้าสามารถติดตามการจัดส่งและรับการแจ้งเตือนเมื่อสินค้ามาถึง ช่วยลดความผิดพลาดที่อาจจะเกิดจากการขนส่ง หรือความผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานของมนุษย์ได้ได้

 

เกษตรกรรม

เทคโนโลยี 5G จะช่วยเพิ่มประสิทธิผลของการเกษตร โดยการควบคุมทางการเกษตร ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ จะถูกควบคุมผ่านเทคโนโลยี เพราะฉะนั้นโลกในอนาคตการเกษตรจะตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้

 

การเงิน

ระบบการชำระเงินจะถูกพัฒนาจนถึงจุดที่สามารถตรวจสอบเครดิต อนุมัติสินเชื่อได้ รวมถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลขั้นสูงและการบริหารความมั่งคั่ง (wealth management) โดยมีการประมาณการว่าเงินจาก Remote Banks ซึ่งเป็นธนาคารรูปแบบใหม่ที่สามารถควบคุมได้จากระยะไกล หรือจากเครื่องรับเงิน จะเพิ่มขึ้นเป็น 14.2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 นอกจากนี้ Goldman Sachs ยังคาดการณ์ว่าการใช้โดรนเคลมประกัน จะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ

 

ความมั่นคงและปลอดภัยทางไซเบอร์

เทคโนโลยี 4G สามารถรองรับอุปกรณ์ได้ประมาณ 4000 เครื่องต่อตารางกิโลเมตร แต่สำหรับเทคโนโลยี 5G คาดว่าจะสามารถรองรับอุปกรณ์ได้ประมาณ 1 ล้านเครื่องต่อตารางกิโลเมตร โดยใช้สเปกตรัม mmWave ทั้งนี้การถ่ายโอนข้อมูลก็เร็วกว่าปัจจุบันประมาณ 10 เท่า ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องสำคัญต่อความปลอดภัยของธุรกิจ เพราะการประมวลผลแบบ Edge แม้จะเป็นการส่งข้อมูลที่ทำได้สะดวก เพราะเป็นคลาวด์รูปแบบหนึ่ง แต่ก็อาจเป็นปัญหาด้านความปลอดภัยเมื่อข้อมูลไม่ได้รับการตรวจสอบ จากฐานข้อมูลส่วนกลาง

Leave a Reply

Your email address will not be published.