การเริ่มต้นทำธุรกิจในจีนเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในสร้างธุรกิจให้เติบโต หรือเข้าสู่ตลาด Growing market เพราะจีนเป็นตลาดที่เป็นภาคการผลิตที่แท้จริง นโยบายรัฐบาลมีเสถียรภาพ และมีความเชื่อมโยงกับภาคการผลิตระดับเวิลด์คลาส จึงทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงตลาดโลกได้
ปัจจุบันจีนเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจด้วยจีดีพี 13 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการเติบโตของภาคธุรกิจในประเทศที่เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน โดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลก ทั้งนี้การ Transform ของจีนมีความน่าสนใจ การพัฒนาด้านนวัตกรรม (Innovation) และนโยบายที่มีวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ผลักดันให้จีนพัฒนาอย่างรวดเร็ว จากประเทศเกษตรกรรม พัฒนาสู่การเป็นประเทศอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของโลก
ดังนั้นด้วยโอกาสใหม่ของจีนที่ขึ้นแท่นเป็นประเทศมหาอำนาจ เป็นแรงเสริมอันสำคัญที่มีผลต่อการเริ่มต้นทำธุรกิจในจีนของนักลงทุนและบริษัทใหม่ ๆ ที่กำลังสนใจเริ่มต้นทำธุรกิจ
ทำไมเราต้องเริ่มทำธุรกิจในจีน?
การเริ่มต้นทำธุรกิจในจีนเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการกระโจนเข้าสู่ตลาดที่มีการเติบโตสูง เต็มไปด้วยภาคการผลิตที่มีความพร้อม นโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมการเติบโตของภาคเอกชน และพร้อมผลักดันให้ธุรกิจในประเทศ ขึ้นเป็นบริษัทระดับโลก
การมีสถานะเป็นบริษัทจีนนั้น นักลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่ถูกออกแบบมาอย่างรอบคอบ รวมถึงนโยบายก้าวกระโดด (A Great Leap Forward) ของรัฐบาล โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจ ทั้งการส่งเสริมธุรกิจของชาวจีนและการต้อนรับนักลงทุนต่างชาติ ด้วยการอำนวยความสะดวกให้ทำธุรกิจอย่างคล่องตัว
ทั้งนี้ด้วยนโยบายที่มีเอกลักษณ์อย่างนโยบาย One Belt One Road (OBOR) หรือเส้นทางสายไหม ที่เชื่อมท่าเรือกับทางด่วนและรถไฟความเร็วสูง ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมเขตพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง สำหรับอุตสาหกรรมพิเศษหรือในเขตเศรษฐกิจพิเศษ
นอกจากนี้ศักยภาพของตลาดจีน ยังมีการแข่งขันในตลาดเสรี หรือในเขตเสรีการค้าด้วยเศรษฐกิจใหม่ ตลอดจนผลประโยชน์ทางสังคมและกลไกทางอนุญาโตตุลาการ หรือการระงับข้อพิพาทที่มีความโดดเด่น
ทำไมธุรกิจของคุณต้องไปลงทุนที่จีน?
การทำธุรกิจในจีน เป์นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในการขยายธุรกิจหรือเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ อย่างไรก็ตามไม่เฉพาะสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนเท่านั้น แต่ยังมีข้อได้เปรียบในการพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขัน ซึ่งจะทำให้บริษัทมีความเป็นต่อ ยิ่งหากสามารถสื่อสารด้วยภาษาจีนได้ประกอบกับทำธุรกิจถูกที่ จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ โดยนักลงทุนที่สนใจหรือกำลังหาลู่ทางเข้าไปลงทุนที่จีน สามารถติดต่อเราได้ โดยจะเตรียมความพร้อมให้กับนักลงทุน ครอบคลุมทั้งขั้นตอนทางกฎหมาย การขออนุญาตและบริหารต่างๆ จะทำให้การเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นไปอย่างเรียบร้อย
ขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในจีน
ขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในจีน ผู้ประกอบการจะต้องเตรียมเอกสาร และดำเนินการ step-by-step ดังนี้
- การเลือกขอบเขตธุรกิจ
- การเลือก Location ที่ใช่
- การตรวจสอบสถานะการเป็นบริษัทนิติบุคคล
- การปรับแผนการดำเนินงานให้เหมาะกับการดำเนินธุรกิจในจีน
- การเสนอชื่อภาษาจีนของบริษัท ต่อทาง The State Administration for Industry and Commerce (SAIC) เพื่อให้พิจารณาในเบื้องต้น
- การยื่นจดหมายขออนุญาตจากทางกระทรวงพาณิชย์จีน (MOFCOM)
ทั้งนี้จะต้องจัดเรียงเอกสาร ดังต่อไปนี้ เพื่อประกอบการพิจารณาการอนุมัติการจัดตั้งบริษัท
- เอกสารที่อยู่บริษัท
- หนังสือบริคณห์สนธิ
- ทุนจดทะเบียนบริษัท (ไม่มีกำหนดทุนขั้นต่ำ)
- การศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุน (สำหรับบริษัทที่ทำธุรกิจอุตสาหกรรมหรือเกี่ยวกับภาคการผลิต)
- การยื่นเอกสารให้ทางกองความมั่นคงสาธารณะ (PSB) ตรวจสอบ
- การยื่นเอกสารให้ทางสํานักงานบริหารเงินตราต่างประเทศของจีน (SAFE) ตรวจสอบ
- การเปิดบัญชีธนาคารสำหรับบัญชีเงินฝากและบัญชีต่างประเทศ
- การยื่นเอกสารต่อสำนักงานภาษี และให้ข้อมูลทางการเงินก่อนจัดตั้งบริษัท
- การจ้างบริษัทบัญชีสำหรับตรวจงบบริษัท
- การจัดทำคู่มือพนักงาน (ประกอบด้วย ข้อบังคับกฎหมาย ค่าตอบแทน รายงานบริษัท การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล การฝึกอบรมพนักงาน)
- การขออนุญาตการใช้เครื่องหมายการค้า
ใบอนุญาตการประกอบธุรกิจในจีน
การขออนุญาตทำธุรกิจในจีนจะต้องได้รับใบอนุญาตเฉพาะ โดยทางการจะออกใบอนุญาตให้กับธุรกิจภาคการผลิตโดยไม่มีเงื่อนไข และจะออกใบอนุญาตพิเศษให้กับบางธุรกิจ เช่น เภสัชกรรม ธุรกิจที่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นฐาน ธุรกิจนำเข้าส่งออกและธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยการออกใบอนุญาตแต่ละประเภท จะแบ่งได้ดังนี้
1.แบ่งตามประเภทธุรกิจ
ยกตัวอย่างเช่น
- กิจการประเภทชาวต่างชาติเป็นเจ้าของทั้งหมด (WFOE)
- ธุรกิจร่วมทุน (Joint-Venture)
- วิสาหกิจการค้าที่ลงทุนโดยต่างชาติ (FICE)
- กิจการที่มีชาวต่างชาติร่วมทุนด้วย (FIPE)
- ธุรกิจ FRO
- ธุรกิจเอกชน (Private Enterprise)
- ธุรกิจที่มีปัจเจกบุคคลเป็นเจ้าของ (Individually-Owned)
- ธุรกิจที่เน้นการบริการ (SOE)
2.แบ่งตาม Scope การทำธุรกิจ
ยกตัวอย่างเช่น
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
- การขาย
- การบริการ
- การให้คำปรึกษา
- การประมวลผล
- การทำการตลาด
- การใช้อินเตอร์เน็ตเป็นฐาน
3.แบ่งตาม Sector ธุรกิจ
ยกตัวอย่างเช่น
- ภาคการผลิต
- อีคอมเมิร์ซ
- เคมีภัณฑ์
- จัดหาวัตถุดิบ
- พลังงาน
- การก่อสร้าง
- การขนส่ง
4. แบ่งตามสถานที่ตั้งธุรกิจ
ยกตัวอย่างเช่น
- จังหวัตหรือเขต
- เขตปกครองตนเอง
- เขตการปกครองพิเศษ (SAR) รวมฮ่องกงและมาเก๊า
- เมืองพิเศษ Shenzhen, Ningbo
5.แบ่งตามโซนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ
ยกตัวอย่างเช่น
- เขตการค้าเสรี (FTZ)
- เขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ)
- เขตเทคโนโลยีขั้นสูง
InterLoop Solutions & Consultancy เรามีความเชี่ยวชาญในการเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทที่ไปลงทุนในจีน โดยบริการของเราครอบครัวทั้งกฎหมายธุรกิจ การกำกับดูแลภาครัฐ การดำเนินการจัดตั้งบริษัทใหม่ รวมถึงใบอนุญาตและขอจดทะเบียนนิติบุคคล ตลอดจนการจัดการด้านบัญชีให้กับบริษัท โดยมีประสบการณ์จากการให้คำปรึกษาการตั้งบริษัทใหม่ในไทยและต่างประเทศให้กับบริษัทหลายแห่งเป็นเครื่องการันตี โดยเฉพาะการเริ่มต้นทำธุรกิจในจีน เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการให้บริการและอำนวยความสำดวกในทุกๆ ด้าน ตลอดจนอัพเดตข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในอัตราค่าบริการที่โปร่งใส ตรวจสอบได้และไม่คิดค่าบริการอื่นๆ เพิ่มเติม
Leave a Reply