Oyster Raises $20 Million For HR Platform

Oyster คว้าเงิน 20 ล้านเหรียญ สำหรับแพลตฟอร์ม HR ที่มุ่งเป้าไปยัง Distributed Work

การเพิ่มขึ้นของการทำงานระยะไกลและการจัดการแรงงานที่มีการกระจายตัวเกินขอบเขตของสำนักงานรูปแบบเดิม ทำให้เทคโนโลยีเกี่ยวกับทรัพยากรมนุษย์ที่องค์กรใช้เพื่อช่วยจัดการกับพนักงานเหล่านั้นมีความสำคัญมากขึ้น วันนี้หนึ่งในสตาร์ทอัพด้าน HR ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วกำลังประกาศการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจเป็นสองเท่า

Oyster สตาร์ทอัพและแพลตฟอร์มที่ให้ความช่วยเหลือบริษัทต่างๆ ผ่านกระบวนการจ้างงาน การดูแลพนักงานใหม่ รวมถึงการจัดหาพนักงานชั่วคราวและพนักงานประจำที่มีความรู้ (Knowledge Worker) ด้วยบริการ HR เช่น สวัสดิการ ระบบการจ่ายและจัดการเงินเดือน เป็นต้น ได้รับเงินทุนระดับ Series A มูลค่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ

บริษัทได้เปิดดำเนินการแล้วใน 100 ประเทศ โดย CEO Tony Jamous (ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทกับ Jack Mardack) กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่าบริษัทมีแผนการที่จะขยายตลาด และนำเสนอบริการใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโอกาสในตลาดเกิดใหม่ที่จะมีการจ้างงานมากขึ้น

ปัจจุบัน Oyster ยังไม่ครอบคลุมถึงการจัดหาผู้สมัครหรือกระบวนการสัมภาษณ์และประเมินผลใด ๆ ซึ่งเป็นส่วนที่บริษัทอาจสร้างเทคโนโลยีหรือพันธมิตรของตนเองเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของบริการแบบครบวงจร โดยได้มีการทดลองจัดงานหางานออนไลน์ที่อาจมองได้ว่าเป็นการประเมินศักยภาพของบริการที่อาจเปิดเพิ่มในอนาคต

“ในช่วง 10 ปีข้างหน้าจะมี Knowledge Worker เริ่มเข้าทำงานอีก1.5 พันล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ในขณะที่เศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วมีงานว่างอยู่ประมาณ 90 ล้านตำแหน่ง” Jamous กล่าว “มีเรื่องดี ๆ มากมายที่คุณจะได้รับจากการกระจายงานไปทั่วโลก แต่มันก็ก่อให้เกิดความท้าทายอย่างใหญ่หลวงเกี่ยวกับ HR และการจัดการเงินเดือน”

Emergence Capital บริษัทร่วมลงทุนที่ให้การสนับสนุนธุรกิจอย่างZoom, Salesforce, Bill.com และ Crunchbase เป็นผู้นำในการระดมทุน Slack Fund (ธุรกิจการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของ Slack) และบริษัท Connect Ventures จากลอนดอน (ซึ่งเคยสนับสนุนในระยะเริ่มต้น) ก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน โดยการลงทุนจะช่วยเร่งการเติบโตของ Oyster และสนับสนุนเป้าหมายในการทำให้ผู้คนสามารถทำงานได้จากทุกที่

การประเมินมูลค่าของ Oyster นั้นไม่ได้รับการเปิดเผย และบริษัทมีการระดมทุนได้ประมาณ 24 ล้านดอลลาร์ จนถึงปัจจุบัน

ประเด็นที่น่าตลกอย่างหนึ่งของการระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลกก็คือในขณะที่โลกของเรามีขนาดเล็กลงอย่างมาก เนื่องจากการเดินทางและแม้แต่กิจกรรมในท้องถิ่นก็ถูกลดทอนลง อีกทั้งเราหลายคนยังใช้เวลาอยู่ที่บ้านทั้งวัน  แต่โอกาสในการจ้างงานและขอบเขตของวิธีการดำเนินงานขององค์กรในอนาคตกลับมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก

การทำงานระยะไกลที่ถูกบังคับใช้ตามมาตรการด้านสาธารณสุขส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ แยกความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานกับสำนักงานออกจากกัน ซึ่งเป็นการเปิดทางสู่การค้นหาและทำงานร่วมกับผู้ที่มีความสามารถโดยไม่ต้องคำนึงถึงสถานที่

สถานการณ์อาจจะรุนแรงได้มากกว่านี้ในปีที่แล้ว แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากเรื่องนี้เริ่มได้รับความสนใจมาซักพักแล้วด้วยแนวโน้มในการใช้งานการประมวลผลแบบคลาวด์และโลกาภิวัตน์ Jamousกล่าวว่าแนวคิดสำหรับ Oyster คือสิ่งที่เขาคิดมาหลายปีแล้ว แต่ปรากฏชัดเจนมากขึ้นเมื่อเขาทำงานอยู่กับ Nexmo สตาร์ทอัพครั้งก่อนของเขา ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการสื่อสารระบบคลาวด์ที่ถูกVonage เข้าซื้อกิจการด้วยเงิน 230 ล้านดอลลาร์ในปี 2016

ที่ Nexmo เราอยากเป็นนายจ้างในท้องถิ่นที่ยอดเยี่ยม เรามีสำนักงานใหญ่ในสองประเทศ แต่ต้องการมีคนอยู่ทุกหนทุกแห่ง” เขากล่าว “เราใช้เงินหลายล้านสร้างโครงสร้างพื้นฐานในการจ้างงาน ทำให้เรามีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายท้องถิ่นในฝรั่งเศส เกาหลี และประเทศอื่น ๆ ” เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่านี่เป็นวิธีที่ไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานมากนัก “เราไม่พร้อมสำหรับความซับซ้อนและความหลากหลายของปัญหาที่จะเกิดขึ้น”

หลังออกจาก Nexmo และลงทุนในบริษัทผู้นำด้าน Distributed Work อื่น ๆ เช่น Hopin เขาตัดสินใจว่าจะลองจัดการกับความท้าทายด้านแรงงานในธุรกิจต่อไป นั่นคือช่วงกลางปี ​​2019 ก่อนเกิดโรคระบาด ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมเมื่อทุกองค์กรกำลังมองหาวิธีจัดการกับความท้าทายด้านแรงงานจากทำงานแบบDistributed Work ในปีต่อมา

ขณะเดียวกันความสนใจในตลาดเกิดใหม่ก็มีการเชื่อมโยงโดยตรงกับ Jamous เช่นกัน เขาออกจากบ้านเกิดในเลบานอนเพื่อไปศึกษาต่อในฝรั่งเศสเมื่ออายุ 17 ปี และอาศัยอยู่ต่างประเทศเป็นหลักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่เช่นเดียวกับผู้คนจำนวนมากที่ย้ายจากตลาดที่พัฒนาแล้วไปยังตลาดเกิดใหม่ เขารู้ว่าพื้นฐานความสามารถด้านเทคนิคในประเทศบ้านเกิดของเขาเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การให้ความสนใจ เพื่อช่วยให้ผู้อยู่อาศัยและประเทศได้พัฒนาชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้น เขาคิดว่าสามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยที่นั่นได้เช่นกัน

ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจทางสังคมในวงกว้างนั้น Oyster มีคำขอที่รอดำเนินการเพื่อเข้าเป็น B-Corporation

Jamous ไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ก่อตั้งบริษัท HR จากประสบการณ์ส่วนตัวของเขา ผู้ก่อตั้งของ Turing ได้อ้างถึงภูมิหลังของตนเองที่โตขึ้นมาในอินเดียและทำงานร่วมกับผู้คนจากระยะไกล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแรงผลักดันในการสร้าง Turing ส่วนผู้ก่อตั้ง Remote ซึ่งมาจากยุโรปแต่สร้าง GitLab (ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์) โดยอิงจากเรื่องราวที่คล้ายกันในการติดต่อกับผู้คนที่มีความสามารถที่เขารู้ว่ามีอยู่ทั่วโลก

และแน่นอน Oyster ไม่ได้เป็นบริษัทเดียวที่เห็นโอกาสนี้ รายชื่อสตาร์ทอัพด้าน HR ที่ต้องการเป็นเหมือนกับบริษัท ADP ของโลกของ Distributed Work ได้แก่ Deel, Remote, Hibob, Papaya Global, Personio, Factorial, Lattice, Turing และ Rippling ซึ่งนี่เป็นแค่เพียงบางส่วนที่ระดมทุนได้ในปีที่ผ่านมา

ความน่าดึงดูดใจของ Oyster ดูเหมือนจะมาจากความเรียบง่ายของวิธีการให้บริการ คุณมีทางเลือกสำหรับพนักงานชั่วคราวและพนักงานประจำ รวมถึงการจ้างงานจำนวนมากในต่างประเทศ คุณมีตัวเลือกในการเพิ่มสวัสดิการให้กับพนักงาน มีเครื่องมือสำหรับพิจารณาการจ้างงานที่เหมาะสมกับงบประมาณ และยังมีคำแนะนำเกี่ยวกับค่าตอบแทนในตลาดท้องถิ่นแต่ละแห่งอีกด้วย โดยมีช่วงราคาตั้งแต่ 29 ดอลลาร์ต่อคนต่อเดือนสำหรับพนักงานชั่วคราวจนถึง 399 ดอลลาร์สำหรับพนักงานประจำ ไปจนถึงแพ็คเกจอื่น ๆ สำหรับการจ้างงานจำนวนมาก

Oyster มีการทำงานร่วมกับพันธมิตรในท้องถิ่นเพื่อให้บริการในบางส่วน ซึ่งบริษัทได้สร้างเทคโนโลยีเพื่อทำให้กระบวนการนี้เป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับลูกค้า เช่นเดียวกับบริการอื่น ๆ บริการดังกล่าวจะจัดการกับการจ้างงานและการจ่ายเงินเดือนในฐานะผู้ให้บริการในท้องถิ่นในนามของลูกค้า โดยสามารถทำได้ภายใต้เงื่อนไขของสัญญาที่เป็นไปตามนโยบายของบริษัทและกฎหมายในพื้นที่นั้น ๆ (ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างพื้นที่เช่น วันลาพักร้อน เงื่อนไขซ้ำซ้อน การลาคลอด และอื่น ๆ)

“มีคู่แข่งที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนอย่างดีอยู่สองสามราย แต่ปกติแล้วนั่นเป็นสัญญาณที่ดี” Jason Green หุ้นส่วนของ Emergence ซึ่งเป็นผู้นำการลงทุนกล่าว “แต่คุณต้องการเดิมพันกับม้าที่จะเป็นผู้นำการแข่งขัน ซึ่งนั่นขึ้นอยู่กับการดำเนินงาน เรากำลังเดิมพันกับทีมที่เคยทำสำเร็จมาก่อน ผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ในการสร้างบริษัทและขายมัน Tony ทำเงินได้และรู้วิธีการสร้างธุรกิจ แต่ยิ่งไปกว่านั้นเขามีความมุ่งมั่นต่อเป้าหมาย และนั่นจะมีความสำคัญต่อธุรกิจและพนักงานของเขา”