ประเทศไทยของเรามีรายได้จากการส่งออกมาช้านานแล้ว สังเกตได้จากการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศในสมัยต่าง ๆ ดังที่เราได้พบเห็นจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมาย ทำให้เราทราบว่า ประเทศไทยของเรามีทรัพยากรที่มีคุณค่าและเป็นที่ต้องการของต่างประเทศอยู่เสมอ และความเจริญก้าวหน้าต่างๆจากประเทศเหล่านั้นได้เข้ามามีอิทธิพลกับประเทศของเราในด้านการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมการส่งออกด้วย ดังเช่น ในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นรัฐมนตรี ในตอนนั้นรัฐวิสาหกิจของไทย ประสบปัญหารายได้ จากการส่งออกลดลง ทางรัฐบาลจึงต้องการส่งเสริมให้เอกชนหันมาลงทุนในอุตสาหกรรมมากขึ้นและได้พยายามจัดตั้งหน่วยงานเพื่อส่งเสริมการลงทุนมาตลอด จนในวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2509 ในสมัยของจอมพลถนอม กิตติขจร ได้ก่อตั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือเรียกอีกอย่างว่า BOI (BOI ย่อมาจาก board of investment) นี้ได้สำเร็จ
สำหรับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นหน่วยงานราชการสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ส่งเสริมการลงทุนในประเทศและการลงทุนของไทยในต่างประเทศด้วย โดยการบริการหลักของ BOI จะเน้นในส่วนของการให้คำแนะนำและคำปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุน เช่น
ให้คำปรึกษาแนะนำ ข้อมูลด้านการลงทุน ขอรับการส่งเสริมการลงทุน(BOI) / บริการให้คำแนะนำการลงทุนของคนไทยในต่างประเทศ รวมถึงการจัดอบรมหลักสูตรการลงทุนของคนไทยในต่างประเทศ /บริการจัดหาผู้ร่วมทุน/บริการแนะนำรับรองผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยศูนย์บุคลากรทักษะสูง /บริการเชื่อมโยงและจัดหาผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ และประสานงานกับหน่วยงานของภาครัฐและเอกชนเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ เป็นต้น
กิจการที่สามารถขอการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ได้แก่
- อุตสาหกรรมฐานความรู้ เน้นการออกแบบ ทำ R&D เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (AI 1)
- กิจการโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาประเทศ และกิจการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม แต่ว่ามีการลงทุนในประเทศน้อยหรือยังไม่มีการลงทุน (AI 2)
- กิจการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ และมีฐานการผลิตอยู่บ้างแล้ว (AI 3)
- กิจการที่มีระดับเทคโนโลยีในกลุ่ม AI 1-AI 3 แต่ว่าช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มแก่วัตถุดิบในประเทศและเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ห่วงโซ่อุปทาน
- อุตสาหกรรมสนับสนุนที่ใช้เทคโนโลยีไม่สูงแต่ยังสำคัญต่อห่วงโซ่มูลค่า (B1/B2)
- กิจการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมายซึ่งมีความร่วมมือตามเงื่อนไขที่กำหนด (กิจการประเภท (กิจการออกแบบอิเล็กทรอนิกส์, กิจการวิจัยและพัฒนา, กิจการบริการออกแบบทางวิศวกรรม,กิจการบริการทดสอบทางวิทยาศาสตร์,กิจการบริการสอบเทียบมาตรฐาน และ กิจการสถานฝึกฝนวิชาชีพ เฉพาะการฝึกอบรมวิทยาศาสตร์)
หากคุณมั่นใจว่าธุรกิจของคุณเข้าข่ายที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) จะให้ทุนในการทำธุรกิจ ให้คุณนั้นยื่นขอส่งเสริมการลงทุนได้เลย โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
ก่อนอื่นคุณต้องศึกษาข้อมูลและรายละเอียดให้ดีก่อน แล้วจึงสอบถามข้อมูลเบื้องต้นไปยังศูนย์บริการลงทุน ศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุน ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคต่างๆ และสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนในต่างประเทศ ต่อมาให้ยื่นคำร้องขอรับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ผ่าน 2 ช่องทาง คือ ยื่นผ่านระบบสนับสนุนการลงทุนและยื่นเอกสารที่สำนักงานคณะกรรมการส่งส่งเสริมการลงทุน และเมื่อคุณยื่นคำขอไปแล้ว ให้คุณนัดหมายเจ้าหน้าที่ภายใน 10 วันทำการ เพื่อเข้าชี้แจงโครงการ หลังจากนั้นกองบริหารการลงทุนจะเป็นผู้วิเคราะห์การลงทุนโดยพิจารณาตามขนาดการลงทุน โดยยิ่งมีขนาดการลงทุนมาก ก็จะยิ่งใช้จำนวนวันในการพิจารณามากตามจำนวนการลงทุน หลังจากพิจารณาแล้วจะมีการแจ้งผลมาว่า อนุมัติหรือไม่ หลังจากทราบผลให้ตอบรับมติการส่งเสริมภายใน 1 เดือน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งมติ โดยให้กรอกแบบฟอร์มผ่านระบบออนไลน์หรือแบบตอบรับการส่งเสริม และหลังจากนั้นจะมีการออกบัตรส่งเสริมภายใน 6 เดือนหลังจากการกรอกผ่านทางออนไลน์
สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
- สิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานที่จะได้รับ คือ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล, ยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักร, ยกเว้นอากรวัตถุดิบเพื่อวิจัยพัฒนา มีการยกเว้นอากรวัตถุดิบผลิตเพื่อส่งออก เป็นต้น แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าคุณมีกิจการประเภทใด
- สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามมูลค่าของโครงการ เช่น กิจการเพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมสูงสุด 3 ปี และวงเงินยกเว้นภาษีเพิ่มสูงสุด 300% เป็นต้น
3.สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค จะมีการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติม 3 ปี,หักค่าติดตั้งหรือก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก 25% ของเงินลงทุน,หักค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้าและประปา 2 เท่า 10 ปี ,กลุ่ม อุตสาหกรรมฐานความรู้ เน้นการออกแบบ ทำ R&D เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (AI 1) และกิจการโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาประเทศ และกิจการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม แต่ว่ามีการลงทุนในประเทศน้อยหรือยังไม่มีการลงทุน จะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติม 50% 5 ปี เป็นต้น จะเห็นได้ว่าสิทธิประโยชน์พื้นฐานและเพิ่มเติมนั้นจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการลดหย่อนภาษีแทบทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นหากคุณมีกิจการที่เข้าข่ายที่ทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะให้เงินทุน ให้คุณลองศึกษาข้อมูลรายละเอียดและยื่นคำร้องดู หากได้รับการอนุมัติคุณจะมีทั้งที่ปรึกษาด้านการทำธุรกิจ เงินทุนหมุนเวียน และสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีต่างๆด้วย ช่วยเพิ่มศักยภาพทางกิจการที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีและด้านการส่งออกได้มากยิ่งขึ้น หากคุณมีกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนา สามารถยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อรับสิทธิประโยชน์มากมายสำหรับผู้ประกอบการ
Leave a Reply